ทางเดินชีวิต
ผมเกิดและเติบในประเทศสวีเดน ก่อนจะออกเดินทางท่องโลกเมื่ออายุ 17 ปี ได้เรียนรู้และสนใจวัฒนธรรมตะวันออก โดยเฉพาะการฝึกให้รู้กายรู้จิตอย่างเช่นโยคะ การทำสมาธิ และอื่นๆ การได้ท่องเที่ยว เข้าร่วมฝึกฝนโยคะและการทำสมาธิ ตามที่ต่างๆตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่นถึงประมาณ 7 ปี นับเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ผม ก่อนที่จะเข้ารับการศึกษาต่อด้านกายภาพบำบัด และได้รับใบประกอบวิชาชีพด้านกายภาพบำบัดในเมริกาด้วยหลังจากที่ผมย้ายไปอยู่ที่นั่น ซึ่งตอนที่ผมทำงานอยู่ที่ Kripalu ประมาณ 1 ปี ผมได้ตั้งใจมั่นว่านับแต่นี้ผมจะทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขเท่านั้น และผมก็ได้ ก่อตั้ง Shantaya Yoga & Bodywork School ตั้งแต่บัดนั้น
ภูมิหลังด้าน โยคะ
ผมได้เรียนรู้เรื่องโยคะและการทำสมาธิเป็นครั้งแรกในปี 2524 และใช้เวลา 30 ปีต่อมาศึกษาค้นคว้าศาสตร์แห่งโยคะในรูปแบบต่างๆ ครูคนแรกของผมคือ Swami Janakananda และ Hari Prem แห่ง Scandinavian Yoga & Meditation School ซึ่งสอนตามแนวทางของ Swami Satyananada โดยหลังจากใช้เวลาหลายปีศึกษาตามรูปแบบนี้ซึ่งถือว่าเป็น classical yoga รู้จักในหมู่ชาวอินเดียในชื่อ พิหารี และทั่วโลกในชื่อ Satyananada ผมย้ายไปอาศัยในเมริกาในช่วงปี 2538 ซึ่งเป็นระยะเดียวกับที่มีโยคะหลากหลายแนวททางให้เรียนรู้ ทำให้ผมมีโอกาสฝึกฝนกับครูผู้มีความสามารถหลายท่าน และได้รับประกาศนียบัตรครูโยคะจาก Kripalu Yoga, Integrative Yoga Therapy และ Anusara Yoga ที่ซึ่งผมได้สอนอยู่ด้วย 10 ปี
รูปแบบองค์รวม
ผมสนใจแนวทางองค์รวมหลายอย่างรวมถึง โยคะและการบำบัดในรูปแบบต่างๆ การรักษาแผนไทย การฝังเข็ม วิปัสสนา ตันตระ โอโชชิอัตสึ Feldenkrais, Cranio-Sacral Therapy, Contact Improvisation ไท่จี๋ จี้กง แอนโทรโพสโสฟี่ และยูริธมี่
รำลึกพระคุณครู
ผมขอน้อมจิตแสดงความความคารวะต่อครูทุกท่านที่ผมได้มีโอกาสเรียนรู้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง John Friend ผู้ก่อตั้ง AnusaraYoga และ Richard Freeman ซึ่งผมถือว่ามีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในแนวทางการฝึกของผม รวมทั้งครูอีกหลายท่านที่เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งผมขอเอ่ยนามไว้ดังนี้ Mata Amritananda Mayi, Ananda Marga, Iskcon, Dharmavir Singh Mahida, TKV Desikachar, BNS Iyengar, Kofi Busia, Glenn Black, Sharon Gannon & David Life, Ana Forest, Shiva Rea, Sivananda Yoga, Kripalu Yoga, และ Integrative Yoga Therapy
การสอนโยคะ
ผมเริ่มสอนโยคะในปี 2539 หรือ 15 ปีหลังจากที่รู้จักโยคะเป็นครั้งแรก ผมได้ใช้เวลาศึกษาและบ่มเพาะความเข้าใจก่อนจะเริ่มนำทางให้กับผู้ฝึกกับผมซึ่งมีในหลายแห่งทั่วโลก แนวทางของโยคะคือเส้นทางที่มีคุณค่าและท้าทาย ผมยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักเรียน และผู้ปฏิบัติ ในขณะที่การสอนในฐานะครูโยคะสร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสในการแป่งปันประสบการณ์กับผู้ฝึกอื่นๆฝ
ประเทศไทย
ตอนผมเริ่มฝึกโยคะครั้งแรกในปี 2524 ผมได้เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน ผมมีโอกาสได้เรียนรู้กับครูและนักบำบัดที่มีชื่อในขณะนั้นหลายท่านรวมทั้งหน่วยงานต่างๆ เช่น อาจารย์พิเชษฐ์ บุญธรรมมี โรงพยาบาลบรรเทาทุกข์โบราณภาคเหนือ คุณจงกล เศรษฐกรโรงเรียน ITM นวดไทยโบราณ Askokananda @ Sunshine Network, คุณปู อิทธิเดช มานะรัฐ นักบำบัดพิการทางสายตาในเชียงใหม่ และ Thai Chiropractic Conservatory ในปี 2541 ผมเริ่มสอนโยคะ ในรูปแบบที่ผมเองเรียกว่า Thai Yoga Bodywork และจัดกลุ่มผู้สนใจเดินทางมายังประเทศไทยระหว่างปี 2543-2553 ประเทศไทยเป็นบ้านของผมในช่วงหน้าหนาวของยุโรป
Shantaya Yoga & Bodywork School
ผมก่อตั้ง Thai Yoga Healing Arts ในปี 2541 เพื่อเผยแพร่ โยคะ และ Bodywork โดยจัดทำ เว็บไซด์เป็นครั้งแรกด้วย ผมใช้แวลาส่วนใหญ่ระหว่างปี 2541 จนถึง 2547 สอนหลักสูตร Thai Yoga Certification Programme ในอเมริกา และเป็นผู้สอนหลักในหลักสูตร Integrative Yoga Therapy Training Program ในอเมริกา ยุโรป และบราซิล ผมได้ก่อตั้ง Shantaya Yoga & Bodywork School ในปี 2547 โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อจัดให้เกิดการเรียนรู้ค้นหาเรื่องกายจิตในแง่มุมต่างๆ ที่นำผูฝึกไปสู่การมีสุขภาพดีในแบบองค์รวม นอกจากนั้นผมยังได้เริ่มอุทิศเวลาเพื่อเผยแพรโยคะ Bodywork และการบำบัดไปทั่วโลก
กายภาพบำบัด
ผมได้ยุติบทบาทในฐานะนักกายภาพบำบัดหลายปีมาแล้ว เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับโยคะและศาสตร์ในการดูแลร่างกายต่างๆ ที่ผมสนใจ อย่างไรก็ตามการค้นคว้าเรื่องโยคะ และร่างกายทำให้ผมได้สืบสานโยคะและการเรียนรู้ร่างกายในแง่การบำบัดต่อไปได้อีก
0 Comments